ใช้บัตรกดเงินสดอย่างไรในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ

บัตรกดเงินสด

ต้องยอมรับว่าเงินคือปัจจัยหลักที่สำคัญในการดำรงชีวิตของคนเรา ยิ่งในช่วงที่มีวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้น คนที่สามารถอยู่รอดได้ก็ต้องมีเงินสำรองไว้ใช้ให้เพียงพอ แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถจัดการกับสถานะทางการเงินได้ลงตัวทุกคน เพราะความจำเป็นของแต่ละคนแตกต่างกันไป เราจึงเห็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อทางการเงินที่ออกมาในรูปแบบบัตรที่กดเงินได้ทันทีและเราเรียกกันว่า“บัตรกดเงินสด” ออกมาเป็นตัวช่วยทางการเงินสำหรับคนที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินจริง ๆ

บัตรกดเงินสด ทางเลือกที่ฉับไวในยามจำเป็น

           บัตรกดเงินสด ถ้าเปรียบเสมือนเป็นคน ก็คงเปรียบได้กับผู้ช่วยส่วนตัวทางการเงินที่สามารถช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ทันท่วงที ด้วยการออกแบบวิธีการใช้งานมาให้สะดวกแก่ผู้ใช้ ซึ่งการใช้สินเชื่อในรูปแบบของบัตรกดเงินนี้ มีจุดประสงค์หลัก ๆ ก็คือการถอนเงินสดมาไว้ใช้ในภาวะที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น

           เมื่อถึงคราวจำเป็นดังกล่าวที่อาจจะเกิดจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หรือเกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่อาจจะมีสาเหตุจากปัญหาการเกิดโรคระบาดซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่เราไม่สามารถควบคุมได้ การมีตัวช่วยที่สามารถแก้ปัญหาทางการเงินให้เราได้ทันทีและรวดเร็วก็คงจะดีไม่ใช่น้อย เพราะถ้าจะหันหน้าไปพึ่งพาหยิบยืมใครในภาวะวิกฤตเช่นนี้ก็คงลำบากเอาการ

           ทีนี้เราควรมาดูว่าเราควรใช้บัตรกดเงินสดอย่างไรดีในภาวะที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะหากเราไม่มีการวางแผนการใช้เงินอย่างรัดกุม ก็อาจจะยิ่งเกิดปัญหาบานปลายได้

  1. เมื่อจำเป็นต้องถอนเงินออกจากบัตรกดเงินสด จะต้องทำการคำนวณว่าเราสามารถชำระคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยภายในหนึ่งงวดได้เลยหรือไม่  เช่น บางคนอาจจะขาดสภาพคล่อง และมีความจำเป็นที่จะต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน หรือค่าผ่อนบ้าน หรือแม้แต่ค่าเทอมของลูก ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายตายตัว ให้คำนวณเงินที่ต้องใช้ แล้วถอนออกมาเพื่อเป็นเงินสำรองจ่ายเท่าที่จำเป็นก็พอ
  2. เมื่อครบกำหนดชำระเงิน ควรชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยทันที แต่หากไม่ไหวจริงๆ สามารถแบ่งผ่อนชำระได้ ซึ่งเทคนิคการใช้บัตรกดเงินสด คือชำระหนี้ให้เร็วที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงครบกำหนดชำระ หรือรอใบแจ้งยอด มีมากก็สามารถคืนได้ทันที จะช่วยให้ดอกเบี้ยไม่บานจนกลายเป็นภาระหนัก เพราะมีการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
  3. ใช้บัตรกดเงินสดในการผ่อนสินค้าได้ ไม่จำเป็นต้องควักเงินสดเป็นก้อนไปช้อปเสมอไป ยกตัวอย่างเช่น บัตรกดเงินสด Umay+ มีโปรโมชั่นผ่อนสินค้า 0% นาน 24 วัน* ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ ก็ช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น และไม่รู้สึกใจหายกับเงินก้อนที่หายไปนั่นเอง (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
  4. รักษาเครดิตไว้ให้ดี ถ้าหากมีความจำเป็นที่ไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ได้เต็มจำนวน หรือผ่อนจ่ายตามยอดเรียกเก็บได้ ขอให้จ่ายขั้นต่ำเพื่อรักษาเครดิต ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 3% – 10% ของยอดเรียกเก็บ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันทางการเงินนั้น ๆ แต่แนะนำว่าควรใช้วิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายจะดีที่สุด แม้จะมีการคำนวณดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกก็จริง แต่การผิดนัดชำระหรือชำระเพียงขั้นต่ำดอกเบี้ยจะงอกออกมาแบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว เพราะดอกเบี้ยมีการเดินรายวันแบบทบต้นทบดอกนั่นเอง

อย่างไรก็ตามแนวทางข้างต้นนั้นเป็นการใช้บัตรกดเงินสดที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของการใช้สินเชื่อประเภทนี้มากที่สุดและหากใช้เป็นย่อมเกิดประโยชน์มากกว่า ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจกับเราหรือไม่ก็ตาม