การลงทุนในหุ้น Megatrend (เมกะเทรนด์) หรือสินทรัพย์อื่นใด ย่อมมีความเสี่ยงพอ ๆ กับโอกาสในการสร้างผลกำไร เนื่องจากความผันผวนที่เกิดขึ้นจากปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และสร้างความเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ในตลาดหุ้น ซึ่งหนึ่งในเทคนิคที่จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ คือ การติดตามข่าวสารสำคัญและหมั่นอัปเดตตลอดเวลา และอีกหนึ่งเทคนิคที่นักลงทุนหลายคนให้ความสำคัญคือ การจัดพอร์ตหุ้นให้มีความเหมาะสม สมดุล และสามารถยืดหยุ่นได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ดังนั้นบทความนี้เราจะนำเทคนิคการจัดพอร์ตหุ้นมาช่วยให้พอร์ตของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4 เทคนิคจัดพอร์ตหุ้น Megatrend ให้มีประสิทธิภาพ และช่วยบริหารความเสี่ยง
หุ้น Megatrend เป็นหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจ เพราะเมกะเทรนด์ คือ แนวโน้มที่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของโลก ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะลงทุนในพลังงานสะอาด ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ ลงทุนกับหุ้นในประเทศจีนที่เชื่อกันว่ากำลังจะกลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ และลงทุนในเทคโนโลยี
แต่ถ้าหากนักลงทุนคิดว่า การลงทุนในเมกะเทรนด์จะช่วยสร้างกำไรให้อย่างต่อเนื่อง คุณกำลังคิดผิด เพราะข้อจำกัดของเมกะเทรนด์ คือ เมื่อมีโอกาสเกิดขึ้นมาได้ ก็มีโอกาสที่จะหมดไปเช่นกัน ที่สำคัญแนวโน้มของเทรนด์บางอย่างจะคงอยู่ยาวนาน และบางอย่างก็อยู่เพียงชั่วคราว ทำให้มูลค่าของหุ้นมีราคาที่แตกต่างกัน หากคุณไม่ศึกษาและบริหารจัดการพอร์ตอย่างรอบคอบ โอกาสที่หุ้นของคุณจะติดดอยยาวนานมีอยู่สูงมากเลยทีเดียว ดังนั้นมาเริ่มต้นกระจายความเสี่ยงด้วย 4 เทคนิคการจัดพอร์ตหุ้นไปด้วยกัน
- หมั่นอัปเดตพอร์ตทุก ๆ 6 เดือน
การอัปเดตพอร์ตการลงทุน คือ การสำรวจความเหมาะสมของตัวคุณเอง หมายความว่า ปัจจุบันนี้ด้วยกลไกของโลก และการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ส่งผลให้หุ้นในตลาดมีความผันผวนสูง โดยเฉพาะหุ้นเมกะเทรนด์ ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของนักลงทุน เพราะสามารถสร้างกำไรได้ดี แต่ความเสี่ยงที่แฝงอยู่ในความผันผวนนี้ อาจทำให้กำไรที่คุณสร้างมาหมดไปได้ เพราะขึ้นชื่อว่าความผันผวนย่อมคาดการณ์ได้ยาก
เทคนิคการอัปเดตพอร์ตทุก 6 เดือน จะช่วยให้คุณประเมินความเสี่ยงในการลงทุนได้ อีกทั้งยังช่วยให้คุณได้ทราบว่า การลงทุนที่ตัดสินใจไปนั้นเหมาะสมกับคุณหรือไม่ คุณจะสามารถปรับปรุงพอร์ตของคุณได้อย่างทันเวลา
- เมกะเทรนด์ใดที่เหมาะกับคุณ
หุ้น Megatrend มีให้เลือกมากมายในตลาดหุ้น และทุกตัวล้วนมีความน่าสนใจ แต่ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่า เมกะเทรนด์มีข้อจำกัดที่ไม่เหมือนกัน เทคนิคการจัดพอร์ตจึงไม่ควรเลือกเมกะเทรนด์ที่เห็นว่า นักลงทุนคนอื่นถือแล้วสร้างกำไรและผลตอบแทนได้ดี แต่ควรเลือกเทรนด์ที่คุณมีความถนัดและมีความสนใจเป็นพิเศษ เพราะจะช่วยให้คุณเข้าใจธรรมชาติของเทรนด์ที่เลือกลงทุน และมีความสนใจติดตามข่าวสารมากกว่าเทรนด์ที่คุณไม่มีความสนใจ
- สร้างความหลากหลายในพอร์ต เพื่อความยืดหยุ่นในการลงทุน
อย่าลงทุนกับหุ้นใดหุ้นหนึ่งทั้งหมด เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด คุณจะขยับไปทางไหนไม่ได้เลย พอร์ตการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ควรเป็นพอร์ตที่มีความหลากหลาย ทั้งด้านความเสี่ยง ระยะเวลา และผลตอบแทน โดยการแบ่งสัดส่วนของพอร์ต ควรจัดการให้มีหุ้น Megatrend ประมาณ 10-15% โดยคุณอาจเลือกลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี หรือลงทุนกับกองทุนในประเทศจีน แล้วส่วนที่เหลือคือกระจายไปลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อเป็นการสำรองเงินสำหรับเสริมสภาพคล่อง และหุ้นที่มีความเสี่ยงปานกลาง เพื่อเพิ่มกำไรให้กับพอร์ตของคุณ
- ติดตามเทรนด์อยู่ตลอดเวลา
เมื่อแนวโน้มบางอย่างของเมกะเทรนด์นั้นอยู่ยาวนาน และบางอย่างก็อยู่เพียงชั่วคราว ดังนั้นนอกจากจะหมั่นอัปเดตพอร์ตทุก 6 เดือนแล้ว อย่าลืมอัปเดตเทรนด์ทุกปีด้วย เพื่อให้คุณเท่าทันสถานการณ์ และสามารถประเมินได้ว่า เทรนด์ใหม่ที่กำลังจะเข้ามามีอะไรที่อยู่ในความสนใจของคุณบ้าง เพื่อทำการศึกษาข้อมูลล่วงหน้า และนำไปสู่การวางแผนการลงทุนที่เหมาะสม
การลงทุนกับหุ้น Megatrend มีเทคนิคที่ไม่แตกต่างจากการลงทุนในหุ้นชนิดอื่น ๆ เพียงแต่ว่าเมกะเทรนด์ จะมีความผันผวนสูง มีมูลค่ามากน้อยที่ไม่เหมือนกัน และที่สำคัญคือ สามารถเปลี่ยนแปลงเทรนด์ได้ตลอดเวลา นักลงทุนที่สนใจกับการลงทุนในเมกะเทรนด์ จึงควรมีคุณสมบัติเป็นผู้ที่ติดตามเทรนด์อยู่ตลอดเวลา ต้องประเมินสถานการณ์ในโลกได้ว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ แนวโน้มแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ จะมีอะไรบ้าง และจะต้องเป็นผู้ที่มีความละเอียดรอบคอบในการลงทุน ซึ่งต้องเลือกเทรนด์ที่มีความถนัด มากกว่าเทรนด์ที่ทำตามนักลงทุนคนอื่น
